Pun Pun Thai Sustainable living and learning center 2021-04-10T05:16:10Z http://thai.punpunthailand.org/?feed=atom WordPress btodd <![CDATA[พันพรรณ]]> http://thai.punpunthailand.org/?p=633 2011-11-07T12:28:30Z 2011-08-24T19:14:43Z พันพรรณ คือ สวนเกษตรอินทรีย์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นทั้งบ้านที่อาศัยแบบถาวรและชั่วคราวของชาวชุมชน เป็นทั้งศูนย์เก็บเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน และสวนฝึกอบรมการอยู่แบบพึ่งตนเอง

พันพรรณ พยายามที่จะพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด ด้วยการสร้างอาหารเอง ดูแลร่างกายด้วยวิถีธรรมชาติ สร้างบ้านด้วยวัสดุจากธรรมชาติ ( บ้านดิน ) และประดิษฐ์เครื่องมือง่ายๆที่ช่วยลดการใช้พลังงาน เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน เป็นต้น

พันพรรณ ต้องการที่จะนำวิถี ของการเก็บเมล็ดพันธุ์กลับมาในชีวิตของเราและเพื่อนเกษตรกร ด้วยการรวบรวมเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน เพื่อปลูกและแจกจ่ายแลกเปลี่ยน เมล็ดพันธุ์พื้นบ้านที่ใกล้จะสูญหายไปจากโลกหากไม่มีคนปลูกต่อ ไม่ใช่เพื่อการค้าแต่เพื่อความอยู่รอดของมนุษย์

พันพรรณ ยังคงเรียนรู้ต่อไป เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย

Seed Saving Project

…]]>
0
btodd <![CDATA[การเก็บเมล็ดพันธุ์]]> http://thai.punpunthailand.org/?p=631 2021-02-06T01:38:38Z 2011-08-24T19:14:22Z เนื่องจาก เมล็ดพันธุ์แท้หรือพันธุ์พื้นเมือง เริ่มหายไปจากโลกเราอย่างรวดเร็ว การหายไปของพันธุ์ต่างๆ เป็นดัชนีชี้วัดความมั่นคงในชีวิตของคนเรา เพราะอาหารคือความมั่นคง ไม่ใช่เงิน  ปัจจุบันมีกลุ่มบริษัทไม่กี่บริษัทที่พยายามจะยึดครองอาหารของโลก โดยการยึดครองพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ที่เป็นพันธุ์แท้ไว้ แล้วเร่งผลิตพันธุ์ผสมหรือพันธุ์ที่ควบคุมไม่ให้มีเมล็ดปลูกต่อไปได้ หรือพัฒนาพันธุ์ให้ผิดธรรมชาติไปเช่นพันธุ์ จีเอ็มโอ (GMOs ย่อมาจากคำว่า Genetically Modified Organisms หมายถึง การดัดแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ซึ่งปกติเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่ได้) พอชาวบ้านปลูกพันธุ์จากบริษัทเขาก็ไม่มีโอกาสปลูกพันธุ์แท้อีกต่อไป เพราะเขาเห็นว่าพันธุ์จากบริษัทโตเร็วลูกดกสวยและมีตลาดรับซื้อด้วย แล้วพันธุ์แท้ก็เริ่มถูกทิ้งให้สูญไปอย่างรวดเร็ว แต่พันธุ์จากบริษัทต้องซื้อทุกครั้งที่ปลูก และราคาก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็วไม่เคยลดลงเลยปัจจุบันเมล็ดพันธุ์พืชผักจำนวนมากราคากิโลกรัมละเป็นหมื่นบาทขึ้นไป ทุกครั้งที่ปลูกต้องซื้อ 60% ของการลงทุนการเกษตรคือค่าเมล็ดพันธุ์ค่าปุ๋ยและยาเคมี  อาหารถูกพัฒนาเพื่อตลาด ไม่ได้พัฒนาเพื่อคนอีกต่อไป คุณค่าที่มีในอาหารลดลงรสชาติ จืดชืด แต่รูปทรงอวบอ้วนสวยงาม ความปลอดภัยไม่มีใครเอยถึง ราคาที่แท้จริงของอาหารแพงขึ้นแต่ราคาในตลาดกลับถูกลง ผู้แบกภาระทั้งหมดคือเกษตรกร อาหารในปัจจุบันทำให้เกษตรกรเป็นหนี้ ทำให้ผู้บริโภคมีปัญหาสุขภาพมากขึ้น ผู้รับผลประโยชน์คือบริษัทไม่กี่บริษัท

68889_504657047722_165100062_30092243_4297860_n

วันนี้เราเห็นว่าถ้าไม่มีเมล็ดพันธุ์ เรามีความสุขไม่ได้ มีเสรีภาพไม่ได้ เพราะเราพึ่งพาตัวเองไม่ได้ ชีวิตไม่มีความมั่นคง เราจึงสนใจที่จะเก็บเมล็ดพันธุ์แท้ของทุกอย่างที่เป็นอาหาร ก่อนที่มันจะสูญหายไป มันเป็นมรดกตั้งแต่บรรพบุรุษของเราได้เก็บรักษา พัฒนา และส่งต่อมาถึงพวกเรา มันน่าละอายมาก หากรุ่นเราจะทำให้มันสูญหายไปก่อนที่จะถึงมือลูกหลาน แล้วพวกเขาจะกินอะไร

>> วิธีการขอรับเมล็ดพันธุ์ สำหรับผู้ที่สนใจจะขอจ้ะ

1. ศึกษาข้อมูลก่อนปลูกนี๊ดนึง ว่าต้นนี้ขนาดใหญ่แค่ไหน โตดีในฤดูอะไร
รายชื่อเมล็ดพันธุ์ที่มีแจกในปี …

]]>
0
btodd <![CDATA[บ้านดิน]]> http://thai.punpunthailand.org/?p=629 2011-11-07T12:31:09Z 2011-08-24T19:14:12Z ในยุคแรกๆเชื่อกันว่ามนุษย์ใช้ถ้ำเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาเมื่อจำนวนประชากรมากขึ้นแต่จำนวนถ้ำมีจำกัด มนุษย์เริ่มใช้กิ่งไม้และใบไม้ทำเป็นที่อยู่อาศัย แต่ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นมากมนุษย์ก็เริ่มใช้ดินมาโบกฉาบผนังบ้านภาษาอีสาน และลาวเรียกว่า ทาเปี๋ยะ (wattle&duab)

จากนั้นมนุษย์ก็เริ่มพัฒนามาใช้หินก่อด้วยดินและทำอิฐดินก่อด้วยดิน (adobe) จนกระทั่งเข้าสู่ยุคโลหะมนุษย์เริ่มเปลี่ยนเครื่องมือจากหินมาเป็นโลหะ จากนั้นมนุษย์ก็เริ่มรู้จักใช้ไม้ทำที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้มากขึ้น แต่มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายหรือในที่แห้งแล้งกันดารเขาก็ยังทำบ้านดิน อยู่อาศัยเรื่อยมาจนปัจจุบัน

บ้านดินถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก บ้านดินมีอายุยาวนานที่สุดในโลกด้วยในปัจจุบันยังมีบ้านดินเก่าๆอายุตั้งแต่ 200 -1,000 ปี กระจายอยู่ทั่วโลก เช่น บ้านของอินเดียแดงเผ่าอนาซาซีซึ่งกระจายอยู่ทั่วไปในรัฐนิวเม็กซิโก โคโลราโด อริโซนา บางแห่งมีอายุเกือบ 2000 ปี เช่น ที่ เมือง เทาพูเอบโบลซึ่งที่นี่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นที่อยู่อาศัยที่มี คนอาศัยอยู่ยาวนานที่สุดในโลก คือตั้งแต่สร้างมาจนถึงปัจจุบันมีคนอาศัยอยู่ตลอดมาไม่เคยขาดช่วงเลย นอกจากนี้ยังมีบ้านดินเก่าแก่อีกมากมายกระจายอยู่ทั่วไปในตะวันออกกลาง แอฟริกา จีน เป็นต้น ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในเขตทะเลทราย หรือบริเวณที่แห้งแล้งกันดารมากๆเพราะบริเวณเหล่านี้จะมีอากาศแปรปรวนมาก หน้าร้อนก็จะร้อนจัดหน้าหนาวก็หนาวจัดจนมีหิมะลงเป็นเดือนๆในสภาวะเช่นนี้คน จะอยู่ไม่ได้เลยถ้าไม่มีฟืน ไม่มีไฟฟ้า ช่วยปรับความร้อนในบ้าน แต่บ้านดินช่วยให้คนอยู่รอดมาได้หลายพันปีจนปัจจุบัน

…]]>